“ การทำข้าวเกรียบเห็ด ”
วิสาหกิจชุมชนศูนย์สาธิตการตลาดและเพาะเห็ดบ้านหนองโข่ย
ประวัติของกลุ่ม
เริ่มจากประธานกลุ่ม คือ นายสุภีร์ ดาหาร เมื่อได้ลาออกจากงานประจำซึ่งเป็นลูกจ้างของกรมวิชาการเกษตรเมื่อ ปี 2547 แล้วหันมาประกอบอาชีพการเพาะเห็ดขายมาก่อน ซึ่งเป็นกิจการส่วนตัว จนเริ่มมีชื่อเสียงทำให้มีคนรู้จักมากขึ้น หลังจากนั้นก็มีคนจากที่ต่างๆ เข้ามาศึกษาดูงานอยู่เป็นประจำ ทำให้สถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์เรียนรู้โดยธรรมชาติ และมีเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ให้ความสนใจอยากจะเรียนรู้วิธีการเพาะเห็ด จึงมีการรวมกลุ่มกันขึ้นเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน จากนั้นจึงได้ไปจดทะเบียนวิสาหกิจกับทางสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองขอนแก่น และทะเบียน OTOP กับทางสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองขอนแก่น กิจกรรมของกลุ่มจะเป็นการเพาะเห็ดแบบครบวงจร และมีการจำหน่ายทั้งก้อนเชื้อเห็ดและเปิดดอกเห็ดขายเป็นดอกเห็ดสด สำหรับเห็ดที่ทางกลุ่มมีการเพาะจะมีหลายชนิดด้วยกัน อาทิเช่น เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม เห็ดขอนขาว เห็ดโคนญี่ปุ่น จากเดิมที่เพาะเห็ดเพียงอย่างเดียว ทางกลุ่มฯ ก็เริ่มมีการกิจกรรมต่างๆเพิ่มเข้ามา โดยกิจกรรมทั้งหมดจะเป็นกิจกรรมที่มีความต่อเนื่องและเชื่อมโยงต่อกัน ซึ่งสถานที่ดังกล่าวได้ใช้เป็นสถานที่บูรณาการแหล่งเรียนรู้ของหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น สำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ,กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน , ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ,กรมพัฒนาชุมชน ,องค์การบริหารส่วนตำบลท่าพระ ,ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎเลย ,กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, และมหาวิทยาลัยขอนแก่น
สภาพด้านหน้าของที่ทำการกลุ่ม นายสุภีร์ ดาหาร (ประธานกลุ่มฯ)
กิจกรรมการเกษตรของกลุ่ม
กิจกรรมที่กลุ่มมีการดำเนินการอยู่ จะมีหลายกิจกรรมด้วยกัน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะมีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวเนื่องกัน
1. การเพาะเห็ด ทางกลุ่มมีการเพาะเห็ดเพื่อจำหน่ายหลายชนิดด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันมีการเพาะ เห็ดอยู่ 4 ชนิดด้วยกัน คือ เห็ดนางฟ้า,เห็ดนามรม,เห็ดขอนขาว,เห็ดโคนญี่ปุ่น
โรงเพาะเห็ด ก้อนเห็ดนางฟ้า ดอกเห็ดนางฟ้าที่จะนำมาจำหน่าย
2. การแปรรูปเห็ดเป็นข้าวเกรียบเห็ด และข้าวเกรียบอื่นๆ กลุ่มมีการนำเห็ดที่ทำการเพาะที่มีอยู่ในกลุ่มมาแปรรูปเป็นขาวเกรียบเห็ด และมีการนำผลผลิตทางการเกษตรอื่นมาเป็นวัตถุดิบในการทำข้าวเกรียบด้วย เช่น ฟักทอง
โรงเรือนผลิตข้าวเกรียบ ข้าวเกรียบที่กลุ่มทำการผลิต
3. ศูนย์สาธิตการตลาด
4. ร้านค้าชุมชน
ศูนย์สาธิตการตลาด ร้านค้าชุมชน
วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกลุ่ม
1.ส่งเสริมสภาพทางเศรษฐกิจ สังคมของกลุ่มเกษตรกรโดยวิธีการร่วมมือกันดำเนินงานในรูป แบบกลุ่ม
2.ส่งเสริมการใช้เวลาว่างหลังจากการทำอาชีพหลัก (ทำการเกษตร) เพื่อให้เกิดรายได้ เป็นการกระจายรายได้ให้เกิดภายในชุมชน
3.เพื่อให้เกิดการสร้างความเข้มแข็งสามัคคีให้เกิดภายในชุมชน จากกระบวนการดำเนินการรูป แบบกลุ่ม
4.จัดสรรเงินทุนเพื่อใช้ในการดำเนินงานตามความจำเป็นเพื่อช่วยลดปัญหาทางด้านการเงินของ สมาชิก เพื่อให้กลุ่มเกิดความยั่งยืน
การรับเข้า – การออกของบุคลากร
ในการรับสมัครเข้าเป็นสามชิกของกลุ่มฯ จะพิจารณาจาก
- ความสมัครใจ และมีความสนใจ
- เป็นบุคคลที่ขยัน ไม่เกี่ยงงาน
- เป็นผู้ที่มีความเสียสละ เมตตา
- มีความขยัน อดทน ซื่อสัตย์
- เป็นผู้ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่อื่นๆได้ ตามความเหมาะสม
- เป็นเกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านหนองโข่ยหมู่ 19 - และผ่านการประชุมของคณะกรรมการ
สำหรับการให้ออกจากการเป็นสมาชิกของกลุ่ม คือ ลาออก ตาย และคณะกรรมการเห็นสมควรให้ออก
สมาชิกในกลุ่ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง
จะช่วยกันทำกิจกรรมต่างๆฃภายในกลุ่ม
ซึ่งประกอบด้วย
1.
นายสุภีร์ ดาหาร ประธานกลุ่ม
2.
นางคำเบียง วรวัตร รองประธาน
3.
นางเสก ซาซุม กรรมการและสมาชิก
4.
นางราตรี เบ้าวัน กรรมการและสมาชิก
5.
นางสาวดวง รักษาเกณฑ์ กรรมการและสมาชิก
6.
นางสาวหนูแปลง ซาซุม กรรมการและสมาชิก
7.
นางรัตนา เพียสักขา กรรมการและสมาชิก
8.
นางสารภี
ดอนแก้วบัว กรรมการและสมาชิก
9.
นางบุญเทียม สิมมา กรรมการและสมาชิก
10. นายจิรานุวัฒน์ เจ๊กภู่ กรรมการและสมาชิก
11. นายสุพรรณชัย ซาซุม กรรมการและสมาชิก
12. นายสมควร ซาซุม กรรมการและสมาชิก
13. นายมงคล อุดมศิลป์ กรรมการและสมาชิก
14. นางอินทร์ตา พระโพธิ์ กรรมการและสมาชิก
15. นายรำพรรณ แพงงา กรรมการและสมาชิก
16. นางพิพยาภา ดาหาร กรรมการและสมาชิก
สูตรและกระบวนการผลิต
สูตร
แป้งมัน 6 กิโลกรัม
น้ำตาล 700 กรัม
เกลือ 150 กรัม
เกลือ 150 กรัม
พริกไทย 150 กรัม
เห็ด 2 กิโลกรัม
เห็ด 2 กิโลกรัม
น้ำมันพืช 6 กิโลกรัม
น้ำร้อน 2 กิโลกรัม
1. ล้างเห็ด ตัดขั้วออก สับให้ละเอียดแล้วนำไปนึ่ง 30 นาทีจนเห็ดนิ่ม
2. นำเกลือ พริกไทย น้ำตาล เห็ด แป้งมัน มาผสมรวมกันใช้น้ำร้อนผสมแป้ง โดยการ หยอดทีละนิด ผสมให้เข้ากันจนปั้นได้
3. นำแป้งที่นวดจนได้ที่แล้วมาปั้นเป็นแท่งกลมๆยาวๆ ให้เท่ากัน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ2-3 นิ้ว
4. นำแป้งไปนึ่งประมาณ 30 นาที จนสุกแล้วทิ้งไว้ให้เย็นโดยนำไปใส่ไว้ในตู้เย็น 1 คืน
5. นำมาหั่นเป็นแผ่นบางๆ ด้วยมีดหรือเครื่องไสลด์ให้มีความหนาประมาณ1.5 มิลลิเมตร
6. นำแผ่นข้าวเกรียบที่หั่นแล้วมาเรียงบนตะแกรง นำไปตากในโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ประมาณ 4-6 ชั่วโมง
จนข้าวเกรียบแห้งสนิท
7. นำแผ่นข้าวเกรียบที่แห้ง นำไปทอดกับน้ำมันพืชด้วยไฟกลาง ยกลงสะเด็ดน้ำมัน
8. นำไปบรรจุถุงเพื่อเตรียมจำหน่าย
สภาพการจัดการความรู้เพื่อการปรับปรุงการผลิต
การทำข้าวเกรียบเห็ดของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์สาธิตการตลาดและเพาะเห็ดบ้านหนองโข่ย เป็นการต่อยอดมาจากการเพาะเห็ดและขายดอกเห็ดที่กลุ่มมีกิจกรรมการผลิตอยู่แล้ว ซึ่งเริ่มดำเนินกิจกรรมเมื่อปี พ.ศ. 2556 เดิมเป็นการแก้ปัญหาที่เห็ดนางฟ้าออกดอกมากเกินไป ซึ่งทางกลุ่มยังไม่มีการจัดการทางการตลาดไว้รองรับกับจำนวนเห็ดที่ออกมาก ทำให้เกิดปัญหาเห็ดแก่เกินที่จะนำไปรับประทาน และเน่าเสียหายเนื่องจากขายไม่ทัน ทำให้ประธานกลุ่ม ได้คิดหาวิธีการในการแก้ไขปัญหา โดยแรกเริ่มได้มีการแปรรูปเห็ดเป็นแหนมเห็ด แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของการเก็บรักษา และรสชาติที่เปลี่ยนไปไม่อร่อย จึงได้แนวคิดในการทำข้าวเกรียบเห็ดมาใช้ในการแก้ปัญหา ซึ่งในการทำข้าวเกรียบเห็ดทางกลุ่มได้ทดลองทำข้าวเกีรยบจากเห็ดหลายๆชนิดที่ทางกลุ่มผลิต เช่น ข้าวเกรียบเห็ดนางฟ้า ข้าวเกรียบเห็ดนางรม ข้าวเกรียบเห็ดขอนขาวแต่รสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเห็ดชนิดนี้ทำให้ไม่เป็นที่นิยม แต่ท้ายที่สุดก็มาลงตัวที่ข้าวเกรียบเห็ดนางฟ้า ในการปรับปรุงการทำข้าวเกรียบเห็ด ได้รับความรู้ และวิธีการมาจากหน่วยงานต่างๆ ดังนี้
สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองขอนแก่น ให้คำแนะนำในเรื่องการดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนให้ประสบสำเร็จ กลุ่มมีความเข้มแข็ง มีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และช่วยหาช่องทางการจำหน่ายตามงานคลินิก และงานนิทรรศการของหน่วยงาน
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน สนับสนุนโรงอบพลังงานแสง อาทิตย์ เพื่อให้สามารถอบข้าวเกรียบได้ตลอดทุกฤดูกาล และข้าวเกรียบที่ได้มีคุณภาพที่ดี
มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ให้การสนับสนุนในเรื่องของการปรับปรุงสูตรการทำข้าวเกรียบให้มีรสชาติอร่อย
สำนักงานพัฒนาชุมชนเมืองขอนแก่น ให้การสนับสนุนในเรื่องกระบวนการผลิตให้มีคุณภาพ และการบรรจุภัณฑ์ให้สะอาดและรักษาคุณภาพรวมถึงการจำหน่าย โดยให้กลุ่มนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายงาน OTOP ของอำเภอทุกสัปดาห์ของทุกเดือน รวมทั้งงาน OTOP-ของจังหวัด